Clean Room ห้องปลอดเชื้อ หรือ Clean room panels ห้องสะอาด

     แผ่นฉนวนกันความร้อนที่นำมาติดตั้งห้อง Clean Room ห้องปลอดเชื้อ เป็นแผ่นฉนวนสำเร็จรูป Sandwich Panel (แซนวิชพาแนล) คือ แผ่นฉนวน ราคาถูก มาตรฐาน ISO แผ่นฉนวน WALL กันความร้อนโดย ผนังห้องเย็น สำเร็จรูปนี้มีฉนวน แผ่นผนังราคาถูก หรือ แผ่นหลังคาโฟม (insulation  Panel Roof) โฟม EPS , PU ,PIR FOAM PANEL และ แผ่นใยหิน Rock wool PANELS มีรายละเอียดดังนี้

Clean room คือ ห้องปลอดเชื้อ, ห้องสะอาด หรือที่มักเรียกกันว่า Clean room or "ห้องปลอดเชื้อ" คือ อะไร คือ "ห้องสะอาด" หมายถึง ห้องที่มีการควบคุมปริมาณอนุภาค ฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ให้มีไม่เกินระดับที่กำหนดไว้ ซึ่ง ห้องคลีนรูม หมายถึง Clean room นี้นิยมใช้กันในวงการที่ต้องระมัดระวังเรื่องฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคเป็นพิเศษ เช่น โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม ประเภทอาหารและยา โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ โรงงานผลิตเลนส์ เป็นต้น และมีการพัฒนามาเป้นห้องคลีนรูมในปัจจุบันและต้องมีการออกแบบที่ได้มาตราฐานตามหลัก Engineering และ มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ ด้วย เช่น ต้องคำนวณคุณลักษณะ และ ความเร็วลม อุณหภูมิ แรงดันลม และ ระดับ humanity(ค่าระดับความชื่นสัมพัทธ์) ภายในห้องด้วย และ โดยใช้แผ่นฉนวนสำเร็จรูป sandwich panels สำหรับกั้นเป็นห้องและมีระบบกำจัดฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคออกด้วยจะทำให้ห้องสะอาด และ sandwich panels จะมีฉนวนอยู่หลายชนิดสำหรับนำมาใช้

โฟมฉนวนที่ใช้ทำเป็นแผ่นฉนวนสำเร็จรูป(sandwich panel)ของ ห้องคลีนรูม เพื่อการสร้าง Clean room มีดังนี้

  1. โฟมขาว ps foam หรือเรียกว่า polystyrene foam เป็นชนิดที่ราคาถูกกว่าชนิดอื่น เช่น ความหนา 2" ราคา 420 บาทต่อตารางเมตร เป็นต้น และ ส่วนโฟมเหลือง pur หรือ pu foam หรือเรียกชื่อเต็มว่า polyurethabe foam เป็นชนิดที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน และ ราคาถูกสุดสำหรับสร้าง ห้องคลีนรูม
  2. โฟมเหลืองกันไฟ pir foam หรือเรียกว่า polyisocyanurate foam โดยโฟมชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ดีคือเป็น ฉนวนทนไฟ ฉนวนกันไฟไหม้ และ กำลังเป้นที่นิยมในปัจจุบันและในอนาคตของประเทศไทย(thailand) เนื่องจากโฟม pir นำไปทดสอบมาตราฐาน Fm approved หรือ Fm approval standard ได้ และจะช่วยเรื่องลดค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยด้านอัคคีภัย และ ด้านความปลอดภัยในโรงงานในการป้องกันด้านไฟไหม้

  1. คุณลักษณะของห้องคลีนรูม หรือ Clean room มีดังนี้
    • คลีนรูม หรือที่มักเรียกว่า ห้องปลอดเชื้อ คือหมายถึง ห้องสะอาดปราศจากฝุ่นละอองโดยมีการควบคุมปริมาณอนุภาค ฝุ่นละออง และ สิ่งปนเปื้อนต่างๆภายในห้องไม่ให้เกินค่าระดีบที่กำหนดไว้ซึ่งมีแบ่ง Cleanroom class ของอนุภาคฝุ่นต่อไปนี้
      1. Class 100 หมายถึง ห้องที่มีอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนหรือใหญ่กว่าไม่เกิน 100 อนุภาคต่ออากาศลูกบาศก์ฟุต
      2. Class 1000 หมายถึง ห้องที่มีอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนหรือใหญ่กว่าไม่เกิน 1000 อนุภาคต่ออากาศลูกบาศก์ฟุต
      3. Class 10000 หมายถึง ห้องที่มีอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนหรือใหญ่กว่าไม่เกิน 10000 อนุภาคต่ออากาศลูกบาศก์ฟุต
      4. Class 100000 หมายถึง ห้องที่มีอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนหรือใหญ่กว่าไม่เกิน 100000 อนุภาคต่ออากาศลูกบาศก์ฟุต
    • นอกจากนั้นจะมีการควบคุมปัจจัยเสริมต่างๆ ได้แก่ คุณลักษณะ และ ความเร็วของลม อุณภูมิ แรงดันและระดับความชื้นสัมพัทธ์(humanity)ในห้องด้วยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
      1. วิธีการควบคุมรักษามาตราฐานของ ห้องคลีนรูม (cleanroom) คือ ป้องกันอนุภาคฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้ามาในห้องด้วย HAPA filter กรองอากาศที่เข้าสู้ห้อง และ รักษาความดันในห้องให้สูงกว่าภายนอก หรือที่เรียกกันว่า positive pressure และ ทำความสะอาดร่างกายโดยล้างตัวด้วยอากาศ หรือที่เรียกกันติดปากว่า air washer ก่อนเข้าห้องทุกครั้ง โดยสวมชุดพิเศษก่อนเข้าห้อง และ ป้องกันการสะสมของฝุ่นตามผนังด้วย เป็นต้น
      2. การกำหนดคุณสมบัติที่จำเพาะของ ห้องคลีนรูม(cleanroom) คือมี คือมี อุณหภูมิที่เหมาะสมกำหนดตามความต้องการของขบวนการผลิตหรือไม่มี ความสำคัญทางด้านการผลิตมักกำหนดให้อยู่ในช่ว 72 oF - 0.24 oF มีความชื่นสะมพัทธ์ที่เหมาะสมขึ้นกับลักษณะงานขบวนการผลิต หรือ ชนิดของผลิตภัณฑ์ และ ในบางกรณีหากมีความชื่นสูงไปอาจทำให้ชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์เกิดสนิมขึ้น(rust)ได้ หรือ ชนิดผลิตภัณฑ์บางชนิดที่สามารถดูดความชื่นได้ง่ายจะส่งผลให้คุณสมบัติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลงไปและในทางตรงกันข้าม หากความชื่นสัมพัทธ์ต่ำไปจะเกิดประจุไฟฟ้าที่วัสดุ หรือ สินค้าผลิตภัณฑ์ทำให้เกอดปัญหาอนุภาคดูดติดกัน ดังนั้นหากไม่มีข้อกำหนดเฉพาะโดยทั่วไปจะกำหนดให้มีความชื่นสัมพัทธ์ประมาณ 50% 10% และความดัน ควรรักษาความดันในห้องให้เป้นบวกเสมอ(positive pressure) และ มีระดับเสียงตามข้อกำหนดของการใช้งานตามโรงงาน และ เรื่องแสงสว่างก็ควรอยู่ที่ 1080-1620 lux.
  2. จะมีคำถามทั่วๆไปว่าทำไมต้องมีห้องคลีนรูม คือ ความต้องการของห้องปลอดเชื้อ ห้อง cleanroon หรือ ห้องสะอาด เกิดจากปัญหาของสิ่งปนเปื้อนของอนถภาคขนาดเล็กและฝุ่นละอองต่างๆที่มาจากการปฎิบัติงานของเครื่องจักร กระบวนการผลิตและรวมถึงอากาศจากภายนอก สิ่งเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ซึ้งจะส่งผลให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้ขาดประสิทธิภาพและขาดขอบขายการใช้งานไป หรือ ห้องปลอดเชื้อที่จะช่วยเรื่องเชื้อโรคภายในห้องสำหรับรักษาผู้ป่วยซึ้งจะรู้กันว่าภายในห้องต้องไม่มีเชื้อไม่เช่นนั้นจะไปติดเชื้อกับผู้ป่วยได้ หรือ แม้กระทั้งปัจจุบันมีเชื้อโรคใหม้ เชื้อ Covid 19 ห้องปลอดเชื้อ หรือ ห้อง negative pressure ก็ช่วยเรื่องนี้ได้ นี้คือที่มาของ ห้องคลีนรูม cleanroom และ ชนิดของ ห้องคลีนรูม(cleanroom) แบ่งตามลักษณะการไหลของอากาศ มีดังนี้

 Conventional Cleanroom คือ การไหลของอากาศเหมือนกันกับระบบปรับอากาศที่ใช้กันทั่วไปแต่จะใช้ HEPA filter และ จำนวนครั้งการเปลี่ยนอากาศมากกว่าเพื่อลดสิ่งสกปรกภายในห้องโดยปกติจะใช้ระดับความสะอาดประมาณ class 1000-100000 และ Horizontal larminar cleanroom ลมที่ความเร็วคงที่จะไหลผ่าน HAPA filter ที่ติดตั้งเต็มพื้นที่ผนังห้องด้านหนึ่งผ่านเข้าสู้ห้องสะอาดแล้วถูกดูดกลับขึ้นด้านบนเพดาน กลับไปสู่ เครื่องเป่าลม ห้องชนิดนี้จะมีความสะอาดประมาณ class 100 นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์ ห้องปฎิบัติการทางชีววิทยา เป้นต้น และ อีกชนิดคือ Vetical laminar Flow cleanroom ห้องชนิดนี้จะติดตั้ง HEPA filter เต็มเพดาน โดยอากาศจะถูกส่งลงจากเพดานผ่าน HEPA filter ในแนวดิ่ง และลมจะกลับผ่านทางพื้นทำให้โปร่งแล้วกลับสู้เครื่องเป่าลมเย็นมีระดับความสะอาดประมาณ class 100 ในทางปฎิบัติเหมาะสำหรับ อุตสาหกรรมอิเลคโืรนิคส์ (ข้อมูลจาก : www.fi.co.th) และ (ข้อมูลอ้างอิง : ห้องสะอาดหรือห้องคลีนรูมถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี คศ 1961 โดย Mr.Willis Whitfield โดยห้องสะอาด หมายถึง ห้องที่มีการปิดมิดชิดมีการควบคุมมลสารอากาศให้น้อยที่สุด)

Clean Room